โดย รศ.ดร.วิไลวรรณ ทองเจริญ » 04 ต.ค. 2012, 08:28
หลักการสำคัญคือโครงการวิจัย จะต้องผ่านการรับรองจาก IRB ของ Research Setting ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการวิจัยได้ ดังนั้น โครงการวิจัยที่มี Research Setting หลายแห่ง จึงต้องเสนอโครงการฯเพื่อขอรับการรับรองจาก IRB แต่ละแห่งและ IRB-NS ซึ่งอาจใช้ระยะเวลาพิจารณารับรองแตกต่างกัน ถ้าเป็นไปได้ การรับรองจาก IRB ของทุกแห่ง รวมทั้งจาก IRB-NS ควรจะเสร็จพร้อมๆกันหรือใกล้เคียงกันก็จะสามารถเก็บข้อมูลพร้อมกันได้ ดังนั้น จะเก็บข้อมูล Setting ใด จะต้องได้รับการรับรองจาก IRB ของ Setting นั้นและ IRB-NS ในกรณีที่ IRB ของ Research Setting เสร็จก่อน ควรประสานงานกับ IRB-NS เพื่อจะได้เร่งดำเนินการให้สามารถเก็บข้อมูลได้
การที่โครงการวิจัยที่มี Research Setting นอกมหาวิทยาลัยมหิดล ต้องผ่านการรับรองจาก IRB-NS เนื่องจากเป็นไปตามประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง นโยบายในการกำกับดูแลโครงการวิจัยในคน พ.ศ. 2551 ข้อ 4.1 รวมทั้ง การดำเนินงานของ IRB แต่ละแห่งเป็นอิสระจากกัน ถึงแม้จะใช้หลักจริยธรรมการวิจัยในคนตามมาตรฐานสากลเหมือนกัน แต่อาจให้ความสนใจเฉพาะเรื่องที่ตนเองรับผิดชอบเท่านั้นตามที่ท่านได้ตั้งข้อสังเกตไว้
สิ่งสำคัญที่ผู้วิจัยต้องติดตามสังเกตคือ ประเด็นต่างๆที่รับรองจะต้องสอดคล้องตรงกันทุกแห่ง ถ้ามีประเด็นที่แตกต่างกัน นักวิจัยจะต้องรับผิดชอบดำเนินการให้สอดรับกันเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ความเที่ยงตรงของผลการวิจัย, เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ฯลฯ ถ้ามีเหตุการณ์เช่นนี้ ขอให้นักวิจัยประสานกับ IRB-NS เพื่อพิจารณาดำเนินการเป็นรายๆไป
หลักการสำคัญคือโครงการวิจัย จะต้องผ่านการรับรองจาก IRB ของ Research Setting ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการวิจัยได้ ดังนั้น โครงการวิจัยที่มี Research Setting หลายแห่ง จึงต้องเสนอโครงการฯเพื่อขอรับการรับรองจาก IRB แต่ละแห่งและ IRB-NS ซึ่งอาจใช้ระยะเวลาพิจารณารับรองแตกต่างกัน ถ้าเป็นไปได้ การรับรองจาก IRB ของทุกแห่ง รวมทั้งจาก IRB-NS ควรจะเสร็จพร้อมๆกันหรือใกล้เคียงกันก็จะสามารถเก็บข้อมูลพร้อมกันได้ ดังนั้น จะเก็บข้อมูล Setting ใด จะต้องได้รับการรับรองจาก IRB ของ Setting นั้นและ IRB-NS ในกรณีที่ IRB ของ Research Setting เสร็จก่อน ควรประสานงานกับ IRB-NS เพื่อจะได้เร่งดำเนินการให้สามารถเก็บข้อมูลได้
การที่โครงการวิจัยที่มี Research Setting นอกมหาวิทยาลัยมหิดล ต้องผ่านการรับรองจาก IRB-NS เนื่องจากเป็นไปตามประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง นโยบายในการกำกับดูแลโครงการวิจัยในคน พ.ศ. 2551 ข้อ 4.1 รวมทั้ง การดำเนินงานของ IRB แต่ละแห่งเป็นอิสระจากกัน ถึงแม้จะใช้หลักจริยธรรมการวิจัยในคนตามมาตรฐานสากลเหมือนกัน แต่อาจให้ความสนใจเฉพาะเรื่องที่ตนเองรับผิดชอบเท่านั้นตามที่ท่านได้ตั้งข้อสังเกตไว้
สิ่งสำคัญที่ผู้วิจัยต้องติดตามสังเกตคือ ประเด็นต่างๆที่รับรองจะต้องสอดคล้องตรงกันทุกแห่ง ถ้ามีประเด็นที่แตกต่างกัน นักวิจัยจะต้องรับผิดชอบดำเนินการให้สอดรับกันเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ความเที่ยงตรงของผลการวิจัย, เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ฯลฯ ถ้ามีเหตุการณ์เช่นนี้ ขอให้นักวิจัยประสานกับ IRB-NS เพื่อพิจารณาดำเนินการเป็นรายๆไป